การยกเลิก LTF (Long Term Equity Fund)
LTF (Long Term Equity Fund) หรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาว เป็นกองทุนรวมที่ผู้ซื้อสามารถนำรายการซื้อไปลดหย่อนภาษีได้ โดยการใช้ LTF เพื่อลดหย่อนภาษีจะถูกประกาศผ่านกฎกระทรวงมาเรื่อยจนถึงฉบับล่าสุดที่กำหนดให้สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ถึงปี 2562 หรืออีกนัยหนึ่งก็คือจะ ยกเลิก LTF ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไปนั่นเอง
ยกเลิก LTF จึงกลายเป็นอีกประเด็นที่ถูกพูดถึงบ่อยมากในหลายแง่มุม ทั้งในแง่มุมด้านตรง หรือผู้ที่ใช้ LTF ไปลดหย่อนภาษีเอง หรือในแง่มุมด้านอ้อม หรือนักลงทุนในตลาดหุ้นที่เคยมีแรงซื้อจาก LTF มาช่วยเสริมสภาพคล่อง
คำถามที่สำคัญ คือ หากยกเลิก LTF แล้ว เราควรลดหย่อนภาษียังไงต่อดี?
• ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะยกเลิกสิทธิ์การลดหย่อนภาษีโดยการซื้อ LTF แต่สิทธิ์การลดหย่อนภาษีโดยการซื้อ RMF (Retirement Mutual Fund) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพยังคงอยู่ ดังนั้น สำหรับคนที่ต้องการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุจริงๆ วางแผนระยะยาวจริงๆ การซื้อ RMF จะตอบโจทย์มาก เพราะนอกจากจะไม่ถูกยกเลิกสิทธิ์แล้ว ยังมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายมากกว่าหุ้นเพียงอย่างเดียวอีกด้วย
• เนื่องจาก LTF มีระยะเวลาการถือครองสั้น อย่างข้อกำหนดล่าสุดคือ 7 ปีปฏิทิน ในขณะที่ RMF มีระยะเวลาการถือครองที่ยาวกว่า คือต้องถือจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และลงทุนจนครบ 5 ปีเต็ม ดังนั้น การซื้อกองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษีคงจะทำแบบใช้เงินหมุนคือขายก้อนเก่ามาซื้อก้อนใหม่เพื่อลดหย่อนภาษีสูงสุดแบบเดิมอีกคงไม่ได้
• คำแนะนำ คือ เราควรเปลี่ยนนิสัยจากการซื้อ LTF ที่มุ่งเน้นการลดหย่อนภาษีสูงสุด มาเป็นการซื้อ RMF ตามเงื่อนไขที่เราต้องการเกษียณแทน ปรกติเคยซื้อ LTF อยู่ 500,000 บาทเต็มที่ ก็อาจจะปรับลดลงมาตามสัดส่วนของการต้องการเกษียณจริง เช่น อาจจะลดเหลือการซื้อเพียงปีละ 100,000 บาท แต่วงเงินนี้คือวงเงินเย็นที่สามารถถือยาวได้จนเกษียณจริงๆ
• สิ่งสำคัญที่เราต้องพึงระลึกเสมอ คือ สิทธิ์ลดหย่อนภาษีคือผลพลอยได้จากการลงทุนเท่านั้น เป้าหมายหลักของ LTF คือการลงทุน เป้าหมายหลักของ RMF คือการวางแผนเกษียณ เป้าหมายหลักของ LTF และ RMF ไม่ใช่ลดหย่อนภาษีเป็นหลักและให้เรื่องอื่นเป็นรอง
• สิ่งที่ดูจะสมเหตุสมผลที่สุด คือ การมารื้อแผนการเงินของตนเองใหม่เสียหมด จัดการเขียนรายละเอียดทรัพย์สิน หนี้สิน ให้ถูกต้อง วางเป้าหมายอนาคตว่าเราจะมุ่งไปทางไหน ต้องการเครื่องมือในการลงทุนอะไรบ้างในการไปถึงจุดหมาย แล้วให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีเป็นเพียงเรื่องรองเท่านั้น
• หากมีเงินส่วนเหลือที่ต้องการไปลงทุนเพิ่มเติม แต่ไม่ใช่เงินเย็นในระยะที่จะถือไปจนถึงเกษียณได้ ก็สามารถแบ่งไปลงทุนในกองทุนรวมธรรมดาได้แทน โดยไม่ต้องมุ่งเน้นเพียงแต่จะซื้อ LTF เพียงอย่างเดียว LTF คือ การลงทุนที่เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนสภาพคล่องของตลาดหุ้น ดังนั้น วันหนึ่ง LTF ต้องถูกยกเลิกไปตามการเติบโตของตลาดหุ้นอยู่แล้ว เราในฐานะคนที่ลดหย่อนมาโดยภาษีโดย LTF มาโดยตลอดก็ควรจะมองว่าสิทธิประโยชน์ที่ผ่านมาเป็นกำไร วันหนึ่งจะไม่ได้ก็คือเท่าทุน ไม่ได้ขาดทุนหรือเสียสิทธิ์อะไรนัก หากมัวหมกมุ่นแต่การจะลดหย่อนภาษี โดยไม่คิดถึงเป้าหมายการซื้อทรัพย์สินการลงทุนที่แท้จริงแล้ว สุดท้าย เราอาจจะได้กำไรภาษี แต่ขาดทุนจากการลงทุนจนเละเทะก็เป็นได้
อ้างอิง: http://www.investerest.com