ตุ๊กตาหมีไซส์ใหญ่
“ตุ๊กตาหมี” ยังคงเป็นของเล่นและของสะสมยอดนิยมอันดับหนึ่งตลอดกาล นิยมกันทั้งเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ เนื่องจากมีความน่ารักทำให้สบายใจทุกครั้งที่มองเห็น ไม่ว่าจะกอด จะหนุน ก็สามารถทำได้สบายๆ พร้อมเป็นเพื่อนเล่นของคุณในทุกๆ ที่ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างทักษะหลากหายให้ลูกน้อยได้เป็นอย่างดี เสริมสร้างจิตนาการความรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ ตัวเท่าคน น่ากอด ราคาถูก มีให้เลือกหลายสี หลายแบบ เหมาะกับทุกเทศกาลความสุขของทุกคน ตุ๊กตาหมีน้อย ทุกตัวล้วนน่ากอด น่าสะสม หาซื้อได้ง่าย ผลิตจากวัสดุชั้นดี คุณภาพเยี่ยม สีสันสดใส ไม่มีสารตกค้างเป็นอันตราย 100% จะซื้อไปสะสม ซื้อไปกอดเล่น หรือซื้อไปพัฒนาทักษะของลูกน้อย ก็ซื้อได้อย่างง่ายดาย
สำหรับนักสะสมล่ะก็ลองสังเกตตุ๊กตาหมีของท่านดูดังนี้
1. ดูป้ายซึ่งติดมากับตัวตุ๊กตาหมี : ก่อนอื่นดูว่ามีป้ายติดมากับตัว ตุ๊กตาหมี หรือไม่ ถ้ามีลองดูซิคะว่าติดอยู่ที่ไหน เช่นที่เท้า , หู , หลัง หรือหน้าอก เป็นต้น ตัวหนังสือบนป้ายเป็นสีอะไร มีเขียนข้อความว่าอะไร
2. ตุ๊กตาหมียัดด้วยวัสดุอะไร : ถ้าเป็น ตุ๊กตาหมี โบราณยุคแรก ( ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว ) เขาจะยัดด้วยฝอยไม้ ซึ่งเหมือนขี้กบที่เขาไสไม้เป็นเส้นเล็ก ๆ ยาว ๆ ในยุคต่อมาลำตัวเขาก็ยัดด้วยนุ่น หรือขนสัตว์ ( เช่นขนแกะหรือขนห่าน ) แต่หัวก็ยังยัดด้วยฝอยไม้ ในยุคหลังเมื่อ 50 ปีมานี้จึงยัดด้วยฟองน้ำ และปัจจุบันนี้มักจะยัดด้วยใยโพลีเอสเตอร์
3. ขนตุ๊กตาหมีทำจากวัสดุอะไร : ขน ตุ๊กตาหมี ที่ว่ากันว่าดีที่สุดคือขนที่ทำจากขนแพะ ซึ่งเป็นผ้าที่ใช้ทำขนหมีในยุคแรก ๆ ต่อมาประมาณช่วงปี 1930 ก็หันมานิยมผ้าขนหมีเป็นผ้าไหมกำมะหยี่ ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เป็นผ้าใยสังเคราะห์
4. ฝ่ามือฝ่าเท้าทำด้วยอะไร : ตุ๊กตาหมี ยุคแรกถ้าเป็นหมีคุณภาพดีก็จะเย็บฝ่ามือฝ่าเท้าด้วยผ้าสักหลาด แต่ถ้าคุณภาพด้อยลงหน่อยก็จะทำด้วยผ้าฝ้ายแทน ต่อมาหันมานิยมใช้ผ้าฝ้ายย้อมสีเลียนแบบผ้าหนังสัตว์ หลังปี 1930 นิยมใช้กำมะหยี่เทียมในการเย็บเป็นฝ่ามือและฝ่าเท้า
5. หมีของคุณมีนิ้วหรือไม่ : จำนวนนิ้วบนมือและเท้าของหมีจะช่วยให้เราจำแนกหมีที่หน้าตาคล้าย ๆ กันได้ ลองนับดูซิคะว่าเขาเย็บนิ้วมือนิ้วเท้าหมีของคุณ กี่นิ้ว บางคนเย็บไว้ 3 นิ้ว 4 นิ้วก็มี
6. ตาทำด้วยอะไร : ตุ๊กตาหมี ยุคแรก ๆ เขาใช้ปุ่มรองเท้าบูตทำเป็นตา ปี 1930 ก็เปลี่ยนมานิยมทำด้วยแก้ว บางทีก็ใช้วิธีระบายสีเป็นรูปดวงตาไว้ข้างลูกแก้ว บางทีก็ทำด้วยแก้ว 2 สี ปัจจุบันนี้นิยมทำด้วยพลาสติก เพราะทำง่ายและราคาถูกกว่า ลองดูด้วยนะคะว่าสีของดวงตาเป็นสีอะไร
7. สังเกตรอยตะเข็บ : ส่วนใหญ่ ตุ๊กตาหมี จะถูกเย็บด้วยจักร ยกเว้นพื้นที่เล็ก ๆ ที่ต้องเย็บด้วยมือ หลังจากที่ยัดใยโพลีเอสเตอร์เสร็จแล้ว หมีบางตัวก็ยัดใยทางด้านหน้า บางตัวก็ยัดทางด้านหลัง ลองสังเกตรอยตะเข็บดูซิคะว่าเขาเย็บด้วยมือด้านไหน
8. มีโหนกหลังหรือไม่ : ตุ๊กตาหมี ที่ออกแบบให้เหมือนหมีจริง ๆ จะมีโหนกอยู่ที่หลัง ซึ่งเป็น เทดดี้แบร์ ยุคแรก ๆ ตุ๊กตาหมี ที่ผลิตในเยอรมันก่อนปี 1930 จะมีโหนกข้างหลังเหมือนหมีจริง ๆ แต่หมีที่ผลิตในอังกฤษ อเมริกา และที่อื่น ๆ จะไม่มีโหนกที่หลัง
9. แขนขายาวหรือไม่ : ตุ๊กตาหมี ยุคแรกจะมีแขนขายาวกว่าความเป็นจริง ส่วนขาจะมีสะโพกกว้าง ข้อเท้าเล็ก แต่เท้าใหญ่ ขณะที่แขนเล็ก และงอนขึ้น แขนจะยาวจนเลยสะโพกไปจนถึงเข่า หลังปี 1920 มีการออกแบบให้แขนสั้นลง งอนน้อยลง แล้วก็ลดขนาดของเท้าลงด้วย ลองสังเกตรูปร่างและความของแขนขาว่าเป็นอย่างไร
10. จมูกรูปร่างอย่างไร : จมูกของ ตุ๊กตาหมี ยุคแรกยังเหมือนของจริงอยู่มาก คือ จะยาวยื่นออกมา แล้วค่อย ๆ สั้นลง มาเรื่อย ๆ จนยุคปัจจุบันนี้หมีบางตัวหน้าแทบจะแบนเหมือนหน้าคนก็มี
11. จมูกเย็บอย่างไร : จมูกของหมีแต่ละตัวจะมีวิธีการเย็บที่แตกต่างกัน ลองสังเกตรูปร่างของจมูกดูซิคะ บางตัวอาจเป็นรูปสามเหลี่ยม บางตัวเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรือกลม กว้างหรือแคบ ฯลฯ
12. แขนขาหมุนได้หรือไม่ : ตุ๊กตาหมีในยุคแรกจะเป็น แบบที่หมุนแขนหมุนขาได้ ช่วงแรกจะใช้โลหะเป็นวัสดุในการต่อแขนขาให้หมุนได้ ต่อมาจึงเปลี่ยนมาเป็นแผ่นไม้วงกลมประกบกันให้หมุนได้ ซึ่งใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ ตุ๊กตาหมี ที่หมุนได้สมบูรณ์จะหมุนได้ 5 จุด คือ แขน ขา และคอ แต่บางครั้งผู้ออกแบบก็ให้หมุนได้เฉพาะแขนและขาเท่านั้น หรือหมีนั่งบางตัวก็หมุนขาไม่ได้ ปี 1950 จึงมีนักออกแบบชื่อ Wendy Boston ที่ออกแบบหมีชนิดที่ไม่สามารถหมุนแขนขาได้ เพราะต้องการให้ซักด้วยเครื่องซักผ้าได้
13. ได้ตุ๊กตาหมีมานานเท่าไร : คุณอาจจะจดจำได้ว่าตุ๊กตาหมีตัวที่คุณได้มาในโอกาสอะไร เช่น ในโอกาสวันเกิดครบ 6 ขวบ หรือซื้อมาในโอกาสอะไร คุณอาจจะเดาไม่ได้ ถ้าหมีตัวนั้นเป็นหมีที่คุณแม่ หรือคุณยายให้มา เพราะท่านอาจจะเคยได้มาในขณะที่ท่านยังเด็กอยู่ และตกทอดมาถึงคุณ