ที่นอนลม
ปัจจัยสำหรับพิจารณาการเลือกซื้อที่นอนลม
นอกจากคุณสมบัติที่ช่วยชลอและป้องกันแผลกดทับแล้ว ความทนทานในการใช้งาน แล้วความสบายในการนอนซึ่งพิจารณาได้จากความสามารถการปรับระดับความดันของที่นอนลม และการลดแรงกดทับ การเสียดสีของที่นอนและผิวของร่างกายแล้ว อีก 2 ปัจจัยที่ต้องพิจารณา คือ ที่นอนลมนั้นมีระบบระบายความชื้นและอุณหภูมิหรือไม่หลายคนคงรู้สึกได้ถึงความร้อนที่สะสมบริเวณหลังหรือสะโพกขณะนอนหลับที่เป็นตัวการให้ลุกลนขณะนอนหลับ นอนไม่หลับ เช่นเดียวกับความชื้นที่สะสมบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเมื่ออุณหภูมิของห้องสูงขึ้นหรือร้อนชื้น
ระบายความชื้นได้ดีกว่าด้วยระบบ low air loss ที่นอนลมทั่วไปสามารถลดความชื้นได้เพียง 1 ชั่วโมงแรกหลังนอน และจะสะสมความชื้นมากขึ้นเมื่อระยะเวลาผ่านไป ดังนั้นจึงควรเลือกที่นอนลมที่มีระบบ low air loss ซึ่งช่วยในการระบายความชื้นและอุณหภูมิที่สะสมบริเวณผิวที่สัมผัสกับผิวที่นอนลม ทำให้คุณนอนหลับสบายยิ่งขึ้น และดูแลคนที่คุณรักให้ห่างไกลจากการเป็นแผลกดทับได้ดียิ่งขึ้น
ดูแลคนที่คุณรัก ป้องกันง่ายๆด้วยที่นอนลม ภาวะแผลกดทับพบในผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในกลุ่มผู้สูงอายุ ร้อยละ 13 วิธีง่ายที่สุดในการป้องกัน คือ การหลีกเลี่ยงแรงกดทับ และการขยับท่าทางการนอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระจายแรงกดทับบริเวณต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการเลือกที่นอนลมให้เป็นผู้ช่วยดูแลคนที่คุณรัก
รู้หรือไม่ ??
คนปกติสามารถรับกดทับได้ที่ 26 mmHg แต่ผู้ที่มีปัญหาแผลกดทับต้องได้รับการดูแลไม่ให้ร่างกายถูกกดทับด้วยแรงที่สูงกว่า 26 mmHg ขณะที่ ที่นอนลมทั่วไปมีแรงต้านแรงกดทับที่ผิว 45-75 mmHg และแรงกดทับที่สูงขึ้นถึง 78 mmHg ทำให้ผู้นอนรู้สึกเจ็บบริเวณลำตัว 4 แล้วเตียงที่คุณนอนอยู่สามารถโอบอุ้มร่างกายของคุณได้ดีพอและเพียงพอที่จะรับแรงกดจากร่างกายได้หรือไม่