หมวด เทพเจ้า สิ่งศักสิทธิ์ แกะ งานสลัก หินอ่อน
พระ แกะสลักจากหินอ่อน ขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว
วิธีบูชาและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรให้ได้ผล
เรื่องที่สำคัญที่สุด ก็คือ "พลังจิต" เพราะพลังจิตที่กล้าแกร่งมีสมาธิเป็นหนึ่งเดียวนั่นคือ แรงส่งมหาศาล ที่จะนำแรงสัจจะอธิษฐานในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ได้ผลตามที่มุ่งหวัง ซึ่งขอให้เข้าใจเสียก่อนว่า พลังจิตที่เราใช้เป็นแรงส่งหรือเชื่อมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ เป็นเพียงพลังส่งการไปขอพร ขออำนาจบุญบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เป็นการไปขอ ไม่ใช่เป็นการไปบังคับกะเกณฑ์เหล่านั้น ซึ่งเราไม่มีอำนาจอะไรไปบังคับท่านได้ว่าท่านจะต้องช่วยหรือไม่ช่วย และรับรองได้ว่าคนที่กำลังเกิดทุกข์นั้นไม่มีพลังจิตพอด้วย เพียงไปขอความเมตตาจากท่านเท่านั้น !!!
พลังจิตเป็นพลังธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และในตัวเราทุกคนนั้นมี จะมีมากหรือน้อยจะเชื่อมต่อกับท่านได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนปฏิบัติ และฐานกำลังจิตเดิมที่มาจากกรรมดี ที่เคยทำมาหรือมีกรรมร่วมกันมากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นหรือไม่
ในบางเรื่องต่างมีพันธะสัญญาต่อกันอยู่ ท่านอาจจะช่วยดลบันดาลในสิ่งที่เราขอความเมตตา แต่ต้องผสมรวมกันกับกรรมของเราด้วย จึงจะสำเร็จได้ แต่ที่ไม่สำเร็จเพราะเราไม่เคยมีกรรมร่วมกับท่าน เหมือนเราไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่รู้จักมักคุ้นกัน ลองคิดดูว่าเขาเหล่านั้นจะช่วยเหลือเราหรือไม่ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย
หลักการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผล
การที่เราไปทำการสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ควรเป็นการไปขอพร ขอบุญบารมี ขอโมทนาพระคุณความดีของท่าน ให้ช่วยปกป้องคุ้มครอง ไม่ใช่ไปติดสินบน เอาของไปล่อใจท่าน ทำให้ท่านมีกิเลส หรือมีกรรมร่วมกับเราอีก ซึ่งแน่นอนว่าท่านคงไม่ต้องการและไม่ปรารถนาที่จะทำเช่นนั้นและที่สำคัญ คนที่ไปชักชวนทำให้ท่านก่อกรรมไม่ดีเพราะเอาสิ่งของไปล่อท่าน คนคนนั้นจะต้องได้รับกรรมที่ก่อขึ้นด้วย...ที่ท่านช่วยให้พรเพราะท่านเมตตาเราเท่านั้น ไม่ได้หวังเครื่องเซ่นใดๆ ทั้งสิ้น
การขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องขออย่างมีสติ ต้องประกาศตัวเองก่อนว่าเราคือใคร มีศีลอะไร มีความดีอะไร ด้วยความดีเหล่านั้น ก็ขอให้เป็นกำลังใจให้เราสร้างความดีต่อไป
การขอพรนั้นเป็นสิ่งที่ดี ขอได้ทุกโอกาสและขอได้กับเทพหรือเทวดาทุกองค์ หรือแม้แต่พระพุทธรูปก็ตาม เมื่อปฏิบัติดีอยู่ในศีลด้วยความดี ตั้งใจมั่นศรัทธา ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นกับเรา
เคล็ดลับอีกประการหนึ่ง ในเวลาที่เรากำลังขอพรอยู่นั้น เราต้องรวมจิตให้มีพลังเพื่อเชื่อมบุญต่อกับท่านเหล่านั้นได้ ให้สังเกตดูว่า ในช่วงที่เรามีพลังจิตกล้าแกร่งนั้น เราจะรู้สึกโล่ง ขนลุก น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวหรือมีแสงวาบขึ้นมาในจิต แสดงว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นท่านรับรู้แล้วในสิ่งที่เราปรารถนาและสิ่งนั้นจะประสบหรือไม่ อยู่ที่กรรมลิขิต
แต่ความสำเร็จที่เราปรารถนานั้น เราต้องรุ้ว่าที่ขอนั้นบุญหรือบาป ผิดต่อศีลธรรมไหม ถ้าบาปก็งดไม่ต้องขอ ถ้าดีก็ทำยิ่งๆ ขึ้นไป เวลาขอพรเราต้องศรัทธา เราเปรียบตัวเองว่าเราคือ ฝุ่น ได้เข้าไปกราบสักการะด้วยความปิติยินดี จึงจะมีความสุข เมื่อมีความสุข ความสำเร็จจะอยู่ที่เรา ถ้าเราทำบาปจะมีความทุกข์ จงจำเอาไว้ว่าถ้าความทุกข์เกิด ความสำเร็จจะไม่ปรากฏ เราต้องปฏิบัติดี ทำดี อยู่ในศีลธรรม แล้วความสุขและสิ่งที่เราปรารถนาจะอยู่กับเราแน่นอน