น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ
น้ำยาขจัดคราบตะไคร่น้ำบนพื้นปูน และสระว่ายน้ำ
น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ มีประสิทธิภาพสูงในการขจัดเชื้อรา, ตะไคร่น้ำ, สาหร่าย, และพืชสีเขียวที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวต่างๆ ได้จนถึงราก ทำให้การกลับมาเกิดซ้ำช้าลง และยังสามารถผสมน้ำในบ่อน้ำ เพื่อยับยั้งการเกิดตะไคร่น้ำได้อย่างดีเยี่ยม (ต้องไม่มีสิ่งมีชีวิต)
คุณสมบัติเด่น
• มีประสิทธิภาพสูงในการขจัดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ สาหร่าย และพืชสีเขียวจนถึงราก
• น้ำยาขจัดคราบตะไคร่น้ำ ยับยั้งการเกิดตะไคร่น้ำในบ่อน้ำได้
• ใช้งานง่าย และไม่ทำให้พื้นผิวเกิดความเสียหาย
• สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องผสมน้ำ
ลักษณะการใช้งาน
น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับขจัดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ สาหร่าย และพืชสีเขียวที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวต่าง ๆ และใช้ทำความสะอาดคราบเชื้อราบนพื้นปูนและในสระว่ายน้ำได้ดี โดยที่ไม่ทำให้พื้นผิวเสียหาย ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง
ขนาดบรรจุ
0.1 ลิตร / 0.5 ลิตร / 3.0 ลิตร / 10.0 ลิตร / 20.0 ลิตร
ข้อแนะนำการใช้
อัตราส่วนผสม
• สำหรับฉีดพ่นตะไคร่น้ำ ผสมน้ำยาจระเข้กับน้ำในอัตรา 1 : 5
• ยับยั้งการเกิดตะไคร่ในบ่อน้ำ น้ำยาจระเข้ 1 ลิตรต่อน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร (ต้องไม่มีสิ่งมีชีวิต)
การใช้งาน
1. ฉีดพ่นน้ำยาจระเข้เพื่อขจัดคราบตะไคร่น้ำในบริเวณที่ต้องการ
2. รอ 12-24 ชั่วโมง
3. ใช้แปรงช่วยขัดพร้อมล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ข้อควรระวัง
• ห้ามรับประทาน
• อย่าให้เข้าตาหรือถูกผิวหนัง
• สวมเครื่องป้องกันทุกครั้งที่ใช้
• ห้ามทิ้งน้ำยา หรือภาชนะบรรจุลงแหล่งน้ำ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
• ทางการเข้าตา ล้างตาด้วยน้ำเปล่าจำนวนมากทันที และกรอกตาขึ้นลง หากใส่คอนเทคเลนส์ ควรถอดอย่างระมัดระวัง และล้างตาด้วยน้ำเปล่าต่ออย่างน้อย 20 นาที และควรปรึกษาแพทย์
• ทางการสูดดม เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปที่โล่งและอากาศถ่ายเท หากยังมีควันฟุ้งจากสารเคมี ควรสวมใส่หน้ากากในกรณีหมดสติ ควรจัดท่าทางผู้ป่วยอยู่ในท่าที่เหมาะสมคลายกระดุมเสื้อหรือเนคไทด์ ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปในสถานที่ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท และปรึกษาแพทย์ฉุกเฉินทันที
• ทางผิวหนัง ล้างสิ่งปนเปื้อนจากผิวหนังด้วยน้ำ จำนวนมาก ล้างสารที่ปนเปื้อนเสื้อผ้าด้วยน้ำ และควรสวมถุงมือ ควรล้างน้ำเป็นระยะเวลา 20 นาที ซักเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนนำมาสวมใส่
• ทางปาก ล้างปาก ถอดฟันปลอมหากมี และดื่มน้ำตามในปริมาณพอสมควร และควรหยุดหากผู้ป่วยมีอาการอยากอาเจียน หากผู้ป่วยมีอาการอาเจียน ควรจัดท่าให้ศีรษะอยู่ต่ำ เพื่อปกป้องไม่ให้สารพิษเข้าสู่ปอด ไม่ควรนำสิ่งต่างๆใส่ปากผู้ป่วย หากผู้ป่วยมีอาการหมดสติ การเคลื่อนย้าย ผู้ป่วยไปที่อากาศปลอดโปร่งและถ่ายเท คลายกระดุมเสื้อ และปรึกษาแพทย์ฉุกเฉินทันที
การเก็บรักษา
• เก็บในที่มิดชิด ห่างจากเด็ก อาหาร และ สัตว์เลี้ยง
• ควรจัดเก็บให้พ้นแสงแดด สามารถจัดเก็บที่อุณหภูมิห้อง