การพ่นทรายเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการทำสีป้องกันสนิม หรือที่รู้จักกัน ในนาม protective coting ซึ่งส่วนมากจะทำกันในงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสนิม เช่น แท่นขุดเจาะน้ำมัน ,โรงกลั่นน้ำมัน ,โรงไฟฟ้า เป็นต้น
การพ่นสี พ่นทราย ในปัจจุบัน ได้ถูกนำมาประยุกต์ ใช้กับงานทั่วๆไป อย่างแพร่หลาย โดยมีความเชื่อที่ว่าการพ่นโลหะให้ขาวถึงเนื้อเหล็ก แล้วทาสีจะทำให้สีที่ทาหรือพ่นนั้นอยู่ได้นานกว่าปกติจริงอยู่ในเรื่องที่ว่า การพ่นทรายก็เหมือนกับเป็นการทำความสะอาดชิ้นงานไปในตัว แต่ลึกๆแล้ว งานพ่นทรายพ่นสี มีองค์ประกอบหลายส่วนที่ควรศึกษา
เริ่มต้นด้วย ทรายที่เราใช้พ่น ในอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ถือว่าทรายเป็นไม่เป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน เนื่องจากมีส่วนของ ซิลิก้า ประกอบอยู่ ซึ่งจะมีผลในระยะยาวต่อปอดของผู้พ่น จึงหันมาใช้วัสดุอย่างอื่นแทน เช่น slag ต่างๆ และที่สำคัญ ทรายที่ใช้พ่นนั้นหากมีความเป็นเกลือ หรือ salt ผสมอยู่ในปริมาณที่มากเกิน จะส่งผลร้ายต่อชิ้นงานอย่างใหญ่หลวง เพราะว่า ในขณะที่เรามองว่าชิ้นงานสะอาด แต่คราบเกลือที่ติดมาจากทราย จะฝังอยู่ในชิ้นงาน โดยที่เราไม่รู้ตัว เมื่อเราใช้งานชิ้นงานนั้นๆสักระยะหนึ่ง ความชื้นจากภายนอกจะซึมผ่าน สีที่พ่น เข้ามาทำปฏิกิริยากับคราบเกลือที่ผิวเนื้อเหล็ก ก่อให้เกิดสนิมอย่างรวดเร็ว ภายใต้สีที่พ่นอยู่ กว่าจะรู้ตัวอีกที่ สนิมก็ปูดดันสีเรียบร้อยแล้ว
ความสะอาดหลังการพ่นทราย ก็มีส่วนสำคัญ ดังที่กล่าวตั้งแต่ต้นแล้วว่า หลังการพ่นทราย ผิวของชิ้นงานจะดูสะอาด แต่ถ้าเราสังเกตุดีๆ บนผิวของชิ้นงาน จะพบว่า เป็นจุดแป้งเล็กๆ บนชิ้นงานทั่วไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจาก ทรายแต่ละแห่งที่นำมาพ่นมีคุณภาพที่แตกต่างกัน มีค่าความแข็งที่ต่างกัน ทรายจากแหล่งที่ดี และมีการคัดอย่างดี จะมีส่วนผสม เม็ดแป้งเล็กๆไม่มาก และที่สำคัญที่มักละเลยหรือมองข้ามคือการทำความสะอาด ชิ้นงานหลังการพ่นทราย ช่างส่วนใหญ่จะพ่นสีทันที หลังพ่นทรายเสร็จสิ้น นั่นหมายความว่าได้พ่นสีทับคราบฝุ่น ซึ่งฝุ่นนั้นจะทำหน้าที่เป็นตัวกั้นไม่ให้สีเข้ายึดเกาะกับเนื้อเหล็กอย่างแท้จริง และจะมีผลต่อการลอกล่อนง่ายขึ้น
ความเข้าใจในสีที่ใช้พ่น ก็มีส่วนที่จะทำให้ชิ้นงานมีอายุยืนยาวหรือไม่ โดยทั่วไปต้องเข้าใจว่า การผสมสีที่ถูกต้องเป็นอย่างไร อัตราส่วน ของสีผสมถูกส่วนหรือไม่ หรือพ่นในขณะที่อากาศชื้นเกินไปหรือไม่ การพ่นสีในขณะที่ชิ้นงานชื้นมีผลร้ายอย่างไร ก็ให้เราสังเกต สีที่ทาคอนกรีตที่ชื้นๆ มักจะหลุดล่อนอยู่เสมอ