สีจระเข้ คัลเลอร์ สตัคโค
สีไฮบริด ชนิดพิเศษ ภายใน และภายนอก
คุณสมบัติเด่น
• สีชนิดพิเศษ มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่แปรปรวน
• ไม่เป็นฝุ่น ไม่ลอกล่อน
• ป้องกัน ยูวี และไอเกลือทะเล
• ไม่ต้องทาสีรองพื้น
• ชั้นสีมีความแกร่งทนทานต่อการขัดถู
• ทำความสะอาดง่าย ลดภาระการดูแลรักษา
• ปกป้องผิวจากการซึมน้ำด้วยสาร ไฮโดรโฟบิก
• ป้องกันการเกิดเชื้อรา และตะไคร่น้ำ
• รับประกัน 15 ปี
สีของผลิตภัณฑ์
• 20 เฉดสี
การรับรอง
• JIS A6909 : 2014 (Japanese Industrial Standard)
ขนาดบรรจุ
• ส่วนสีรองพื้น 3.25 กิโลกรัม
• ส่วนสีทับหน้า พ่น 10.6 กิโลกรัม
• ส่วนสีทับหน้า ฉาบเม็ดเล็ก 10.5 กิโลกรัม
• ส่วนสีทับหน้า ฉาบเม็ดใหญ่ 10.3 กิโลกรัม
สีจระเข้ คัลเลอร์ สตัคโค
สีไฮบริด ชนิดพิเศษสำหรับงานตกแต่งผนังชั้นสุดท้ายให้มีมิติโดดเด่น ตอบรับการออกแบบได้เป็นอย่างดี ปกป้องอาคาร ใช้ได้ทั้งผนังภายในและผนังภายนอก ทนทานสูงในทุกสภาวะ เหมาะสำหรับผนังปูนฉาบคอนกรีต ผนังอิฐมอญ ผนังอิฐบล็อก ผนังไฟเบอร์ซีเมนต์ ผนังสำเร็จรูปต่าง ๆ
ข้อแนะนำการใช้งาน
การเตรียมพื้นผิว
• ทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด ปราศจากสิ่งสกปรก ฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่ม สี สิ่งแปลกปลอมอื่นๆ และพื้นผิวต้องแห้ง แข็งแรงยึดเกาะได้ดี
• กรณีพื้นผิวมีเชื้อรา ตะไคร่น้ำ ให้ขัดล้างด้วยน้ำยากำจัดเชื้อรา และตะไคร่น้ำ จระเข้ เอ็ม-คิล แล้วทิ้งให้พื้นผิวแห้ง 1-2 วัน
• กรณีพื้นผิวที่มีความสามารถในการยึดเกาะต่ำ เช่น มีทรายหรือมีฝุ่น ให้ปัดทำความสะอาด และใช้สีรองพื้นปูนเก่า
• กรณีที่พื้นผิวมีรอยแตกร้าว ให้ซ่อมรอยแตกร้าวด้วยวัสดุ โป๊วก่อนการทาสี
• กรณีทาทับสีเดิมให้ขูดฟิล์มสีที่เสื่อมสภาพออกให้หมด และทำความสะอาดก่อน และใช้สีรองพื้นปูนเก่า ก่อนทำการทาสี
การเตรียมผลิตภัณฑ์
• เทส่วนผสมที่ 1 ลงในภาชนะ ใช้สว่านปั่น 1-2 นาที หลังจากนั้นจึงเทส่วนผสมที่ 2 และ 3 ตามลำดับ ไม่แนะนำให้แบ่งส่วนผสมกวนด้วยสว่านไฟฟ้าที่ติดตั้งหัวปั่นปูน ประมาณ 3-5 นาที ปั่นให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วทำการปั่นซ้ำอีก 30 วินาที จึงนำไปใช้งานได้ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมแล้วให้หมดภายใน 30 นาที
การใช้งาน
การใช้งานส่วนสีรองพื้น
• ใช้แปรงหรือลูกกลิ้งทา 1 รอบให้ทั่วบริเวณที่ต้องการใช้งานสร้างมิติ
การใช้งานส่วนสีทับหน้าแบบฉาบ
• ใช้เกรียงเหล็กฉาบบนพื้นผิว ของผนังจนทั่ว จากนั้น ใช้เกรียงเหล็ก รูดเนื้อสี สไลด์ ขึ้น-ลง ตกแต่งลวดลาย การปรับแต่งสามารถทำได้ตามที่ต้องการ จนกว่าสีทับหน้าจะเซตตัว
การใช้งานส่วนสีทับหน้าแบบพ่น
• นำสีที่ผสมแล้วใส่กาพ่นสีเทคเจอร์ พ่นสีโดยทิ้งระยะห่างระหว่างกาพ่น และผนังอย่างน้อย 40 เซนติเมตร สามารถใช้เกรียง รวมทั้งอุปกรณ์สร้างลายอื่น ๆ ตกแต่งลวดลายได้ สามารถทำได้ตามที่ต้องการ จนกว่าสีทับหน้าจะเซตตัว
การแห้ง
• ระยะเวลาการแห้ง ส่วนสีรองพื้น ประมาณ 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ (อ้างอิงมาตรฐานสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 65%)
• ระยะเวลาการแห้ง ส่วนสีทับหน้า ประมาณ 20-30 นาที ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ หลังจานั้น ป้องกันพื้นผิวไม่ให้โดนน้ำหลังงานเสร็จแล้ว อย่างน้อย 24 ชั่วโมง (อ้างอิงมาตรฐาน สภาพแวดล้อมอากาศที่มีอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 60 %)
อัตราการครอบคลุมพื้นที่
• สีรองพื้น 1.5-1.8 ตารางเมตร ต่อ 1 กิโลกรัม
• สีทับหน้าลายพ่น 0.45-0.50 ตารางเมตร ต่อ 1 กิโลกรัม
• สีทับหน้าลายฉาบเม็ดเล็ก 0.40-0.45 ตารางเมตร ต่อ 1 กิโลกรัม
• สีทับหน้าลายฉาบเม็ดใหญ่ 0.40-0.42 ตารางเมตร ต่อ 1 กิโลกรัม
อุปกรณ์ที่เหมาะสม
• แปรงทาสี ลูกกลิ้ง ฟองน้ำ เครื่องพ่นสี เกรียงฉาบ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ
การทำความสะอาดอุปกรณ์
• ทำความสะอาดอุปกรณ์หลังใช้งานด้วยน้ำสะอาด
ข้อแนะนำ
• เมื่อผสมผลิตภัณฑ์แล้ว (ทั้งส่วนสีรองพื้น และส่วนสีทับหน้า) ควรใช้ให้หมดภายใน 30 นาที
• ในกรณีสร้างลายด้วยวิธีการฉาบเม็ดเล็ก และฉาบเม็ดใหญ่ ห้ามตีน้ำลงฟองโดยเด็ดขาด
• กรณีทำงานในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัด หรือทำงานบนพื้นที่ร้อน อาจทำให้ทั้งส่วนสีรองพื้นและสีทับหน้าแห้งเร็วจนเกินไป และส่งผลให้เกิดรอยแตกร้าว ควรจะมีวัสดุกันแดดเพื่อลดความร้อน
• ไม่ควรทำงานในวันที่มีความชื้นสูงหรือฝนตก เพราะจะทำให้วัสดุแห้งช้า และอาจเกิดปัญหาทั้งส่วนสีรองพื้น และสีทับหน้าได้
ข้อควรระวัง
• ควรสวมใส่อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา หรืออุปกรณ์อื่น ๆ
• ในกรณีเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์
• ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
การเก็บรักษา
• ควรจัดเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิด ในสถานที่แห้งห่างจากอากาศเย็นจัด และหลีกเลี่ยงสถานที่จัดเก็บที่มีแสงแดดส่องถึง
• หากยังไม่เปิดใช้งานสามารถเก็บไว้ได้นานอย่างน้อย 9 เดือน จากวันที่ผลิต