BegerCool UV Shield
เบเยอร์คูล ยูวี ชิลด์ สีบ้านเย็น ประหยัดค่าไฟ สะท้อนยูวี
หนึ่งเดียวที่เป็นทั้งฟิล์มสะท้อน UV และฉนวนกันร้อน ด้วยการทำงานแบบดับเบิล เอฟเฟ็กต์ อีกทั้งสามารถสะท้อนรังสียูวี เอ บี และ ซี ป้องกันฟิล์มสีเสื่อมสภาพ ช่วยปกป้องบ้านได้ยาวนานกว่า 15 ปี ผสาน Advanced Nano Silicone Technology ให้บ้านสวยสะอาดเหมือนใหม่อยู่เสมอ ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน
"สีบ้านเย็น ประหยัดค่าไฟ สะท้อนยูวี"
สีทับหน้าสูตรน้ำ
เกรด Ultra premium ชนิดฟิล์มสี : กึ่งเงา
พื้นที่การทา 35-40 ตารางเมตร/แกลลอน/เที่ยว
สามารถผสมสีได้จากศูนย์ผสมสีเบเยอร์คัลเลอร์ดีไซน์
คุณสมบัติ
สะท้อนความร้อนได้ > 94.2%
เป็นฉนวนกันร้อน จึงช่วยคุณประหยัดไฟสูงสุดถึง 25%
สะท้อนรังสี UV ตัวการทำลายบ้าน ได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกช่วงคลื่น (UVA, UVB และ UVC)
บ้านสวยสะอาดเหมือนใหม่อยู่เสมอ ด้วย Advanced Nano Silicone Technology
ฟิล์มสีหายใจได้ ป้องกันน้ำซึมเข้าผนัง
Cross Link Technology ป้องกันการหลุดล่อนของฟิล์มสี ปกป้องบ้านได้ยาวนานกว่า 15 ปี
ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ
ทนต่อด่างจากปูน
ไม่ผสมสารปรอท สารตะกั่ว
นวัตกรรม
นวัตกรรมไมโครสเฟียร์เซรามิก ซึ่งเป็นฉนวนกันร้อนอย่างดีเยี่ยมที่องค์การนาซ่านำเป็นแผงป้องกันความร้อนให้กับกระสวยอวกาศ ภายในเป็นสุญญากาศ ทำให้ไม่นำพาความร้อน จึงเปรียบเสมือนฉนวนกันร้อนให้บ้าน และด้วยความมันวาวของไมโครสเฟียร์เซรามิก ทำให้สะท้อนความร้อนได้สูงสุด
สีเบเยอร์คูล ได้รับการรับรองประสิทธิภาพด้วยรางวัลนวัตกรรมปี 2553 และใบรับรองเรื่องการสะท้อนความร้อนและการประหยัดพลังงานจากหน่วยงานวิจัยชั้นนำของรัฐบาล
ปกป้องบ้านจากการเสื่อมสภาพของฟิล์มสีจากการทำลายของแสงแดด
ขั้นที่ 1 : ขัดล้างทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นและคราบสกปรก ทิ้งให้แห้งสนิทอย่างน้อย 1-2 วัน
ขั้นที่ 2 : กรณีที่พื้นผิวผนังปูนเก่ามีรอยแตกร้าวขนาดเล็ก ให้อุดโป๊วปิดรอยแตกร้าวลายงาด้วย Beger Acrylic Filler #200
ขั้นที่ 3 :
3.1 พื้นผิวปูนเก่า : ทาสีรองพื้นอเนกประสงค์ Beger Multi Purpose Primer B-1900 สูตรประสิทธิภาพสูง เพื่อเสริมการยึดเกาะและเพิ่มการปกปิดพื้นผิว
3.2 พื้นผิวปูนใหม่ : ทาสีรองพื้นเบเยอร์คูล ยูวี ชิลด์ เบอร์ 9900 เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการกันความร้อนจากแสงแดดและรังสี UV
ขั้นที่ 4 : ทาทับด้วยสี BegerCool UV Shield สีฉนวนกันร้อนสะท้อนรังสี UV นวัตกรรมขั้นสูงสุด ปกป้องได้ทั้งรังสี UV-A, UV-B, และ UV-C ซึ่งเป็นสาเหตุให้ฟิล์มสีเสื่อมสภาพ เกิดปัญหาฝุ่นชอล์ก
วิธีการใช้ :
ระบบการทาสี
ขั้นที่ 1การเตรียมพื้นผิว
พื้นผิวปูนใหม่ : ทิ้งให้พื้นผิวปูนแห้งสนิทอย่างน้อย 1 เดือน และมีความชื้นน้อยกว่า 14%
พื้นผิวปูนเก่า : ขัดล้างสีเดิมที่เสื่อมสภาพออก ส่วนบริเวณที่มีเชื้อราหรือตะไคร่น้าต้องขัดล้างด้วย เบเยอร์ โมวด์ฟรี เอ็ม 001
ข้อควรระวัง : ก่อนการทาสีทุกครั้ง ต้องล้างทาความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นละออง และเศษซีเมนต์หรืออาจใช้กระดาษทรายขัดฝุ่นออกให้หมดก่อน รวมทั้งคราบไขมันและสิ่งสกปรกต่างๆ ซ่อมแซมตกแต่งรอยแตกร้าวบนพื้นผิวด้วยสีโป๊วเบเยอร์ อะคริลิก ฟิลเลอร์ เบอร์ 200
ขั้นที่ 2 การทาสีรองพื้น
พื้นผิวปูนใหม่ : ทาสีรองพื้นปูนใหม่กันด่าง (กันความร้อนสูงสุด) เบเยอร์คูล ยูวี ชิลด์ เบอร์ 9900 จานวน 1 เที่ยว ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนทาสีทับหน้า
พื้นผิวปูนเก่า : ทาสีรองพื้นปูนเก่าอเนกประสงค์ เบเยอร์ มัลติเพอเพิส ไพรเมอร์ บี-1900 จานวน 1 เที่ยว ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการกันร้อนสูงสุดแนะนำให้สีรองพื้นปูนใหม่กันด่าง (กันความร้อนสูงสุด) เบเยอร์คูล ยูวี ชิลด์ เบอร์ 9900 เพิ่มอีกจำนวน 1 เที่ยว
*กรณีพื้นผิวปูนมีความชื้นสูงกว่า 14 % แต่ไม่เกิน 35 % แนะนำให้ใช้น้ำยารองพื้นปูนกันความชื้น เบเยอร์วอเตอร์บล๊อก เบอร์ ดับเบิ้ลยู-010 ทาในชั้นแรก แล้วปล่อยทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง ตามด้วยสีรองพื้นปูนเอนกประสงค์ เบเยอร์อัลตร้าไฮด์ ไพร์เมอร์ เบอร์ บี-2100 แล้วปล่อยทิ้งไว้ 6-8 ชั่วโมง แล้วจึงทาสีทับหน้าอะคริลิกแท้ 100%
ขั้นตอนที่ 3 การทาสีทับหน้า ทาสีน้ำอะคริลิก แท้ 100% เบเยอร์คูล ยูวี ชิลด์ จานวน 2 เที่ยว โดยทิ้งระยะให้สีที่ทาชั้นแรกแห้งสนิทก่อน 2-3 ชั่วโมงจึงทาทับเที่ยวถัดไป